i_love_you_teddy_bear-wide

ความรักผลิบานในวันวาเลนไทน์ (Valentine’s Day)

Happy Valentine’s Day 2015

เข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรัก เดือนแห่งการบอกรัก เดือนแห่งการมีคู่ ทำไมเดือนนี้ถึงเป็นเดือนแห่งความรักก็เพราะว่าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันแห่งความรัก หรือที่เราเรียกจนติดปากได้ยินจนชินหูนั้นก็คือ วันวาเลนไทน์ (Valentine’s Day) ในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์นั้นจะมีสิ่งหนึ่งที่บรรดาหนุ่มสาวตามหากันนั้นก็คือ ดอกกุหลาบหลากหลายสีสัน การ์ดที่เขียนข้อความซึ้งกินใจ ของขวัญสุดพิเศษ อีกทั้งคู่รักหลายคู่ได้ใช้เทศกาลนี้ในการขอแต่งงานและจัดงานแต่งงาน งานนี้คนไร้คู่อาจจะมีคู่ในวันวาเลนไทน์นี้ก็เป็นได้ สำหรับหนุ่มๆหรือสาวๆที่แอบรักเขาและเธอมานานแสนนานก็ถือโอกาสสุดพิเศษนี้เผยตัวตนจากหลังเสามาบอกรักโดยไม่ต้องเขินอายอีกด้วย…แค่นึกถึงหัวใจก็เต้นผิดจังหวะแล้วล่ะ…

ประวัติวาเลน์ไทน์วันแห่งความรัก

เทศกาลวาเลนไทน์ (Valentine’s Day) เริ่มมีขึ้นตั้งแต่ยุคที่จักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจในยุคนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปีถูกจัดให้เป็นวันหยุดเพื่อเป็นเกียรติแต่เทพเจ้าจูโนผู้เป็นจักรพรรดินีแห่งเทพเจ้าโรมัน นอกจากนี้แล้วพระองค์ยังทรงเป็นเทพเจ้าแห่ง อิสตรีเพศและการแต่งงานและในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นวันเริ่มต้นเทศกาล เฉลิมฉลองแห่งลูเพอร์คาร์เลีย การดำเนินชีวิตของหนุ่มสาวจะถูกตัดขาดออกจากกันอย่างสิ้นเชิง

ในรัชสมัยของจักรพรรดิคลอดิอัส ที่ 2 (Emperor Claudius II) แห่งกรุงโรม พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่มีใจคอดุร้ายและทรงนิยม การทำสงครามนองเลือด ได้ทรงตระหนักว่าเหตุที่ ชายหนุ่มส่วนมากไม่ประสงค์จะเข้าร่วม ในกองทัพเนื่องจากไม่อยากจากคู่รัก และครอบครัวไปจึงทรงมีพระราชโองการสั่งห้ามมิให้มีการจัดพิธีหมั้นและแต่งงานกันในโรมโดยเด็ดขาดทำให้ประชาชนทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง

และขณะนั้นมีนักบุญรูปหนึ่งนามว่าเซนต์วาเลนไทน์ หรือวาเลนตินัสซึ่งอาศัยอยู่ในโรมได้ร่วมมือกับเซนต์มาริอัสจัดพิธีแต่งงานให้กับชาวคริสต์หลายคู่และด้วยความปรารถนาดีนี้เองจึงทำให้วาเลนไทน์ถูกจับและระหว่างนี้ก็ยังคงส่งคำอวยพรวาเลนไทน์ของเขาเองขณะที่เขาเป็นนักโทษ ความเชื่อว่าวาเลนไทน์ได้ตกหลุมรักหญิงสาวที่เป็นลูกสาวของผู้คุมที่ชื่อจูเลีย ซึ่งได้มาเยี่ยมเขาระหว่างที่ถูกคุมขัง ในคืนก่อนที่วาเลนไทน์จะสิ้นชีวิตโดยการถูกตัดศีรษะเขาได้ส่งจดหมายฉบับ สุดท้ายถึงจูเลีย โดยลงท้ายว่า “From Your Valentine”

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 หลังจากนั้นศพของเขาได้ถูกเก็บไว้ที่โบสถ์พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม จูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอลต์สีชมพูไว้ใกล้หลุม ศพของวาเลนตินัส แด่ผู้เป็น ที่รักของเธอโดยในทุกวันนี้ ต้นอามันต์สีชมพูได้เป็นตัวแทน แห่งรักนิรันดรและมิตรภาพอันสวยงามและคำนี้ก็เป็นคำที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่าเบื้องหลังความเป็นจริงของวาเลนไทน์จะเป็นตำนานที่มืดมัว แต่เรื่องราวยังคงแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกสงสาร ความกล้าหาญและที่สำคัญที่สุดเป็นเครื่องหมาย ของความโรแมนติค จึงไม่น่าประหลาดใจ เลยว่าในช่วงยุคกลางวาเลนไทน์เป็นนักบุญ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในอังกฤษและฝรั่งเศส

ต่อมาพระในนิกายโรมันคาทอลิกจึงเลือกให้ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันเฉลิมฉลอง เทศกาลวันแห่งความรักและดูเหมือนว่ายัง คงเป็นธรรมเนียมที่ชายหนุ่มจะเลือก หญิงสาวที่ตนเองพึงใจในวันวาเลนไทน์ (Valentine’s Day) สืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า วันวาเลนไทน์เกิดขึ้นระลึกถึงนักบุญเซนต์วาเลนไทน์ (Saint Valentine) ผู้รับโทษประหารในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 เพราะในยุคนั้นมีกฏหมายห้ามไม่ให้มีแต่งงานของพวกคริสเตียน แต่เซนต์วาเลนไทน์ยังแอบจัดงานแต่งงานให้กับคู่รักคริสเตียนจนถูกจับขังและรับโทษ โดยในขณะที่ถูกคุมขังนั้น เขาก็พบรักกับสาวตาบอดซึ่งเป็นลูกสาวของผู้คุม ด้วยความรักและคำอธิษฐานของเขา พระเจ้าได้ทรงโปรดให้ตาของสาวคนรักหายเป็นปกติ แต่เมื่อความนี้ล่วงรู้ถึงหูกษัตริย์ เซนต์วาเลนไทน์จึงถูกประหารชีวิตด้วยการตัดศรีษะ ต่อมาเมื่อคนทั่วไปทราบเรื่องราวจึงเกิดความประทับใจและยึดถือเอาวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็น วันแห่งความรักนั่นเอง

ในวันวาเลนไทน์คนมีรัก คนแอบรัก เขาทำอะไรกันน๋า?

ในวันวาเลนไทน์นั้นเรามักจะเห็นวิธีการแสดงออกถึงความรักต่อคนที่เรารัก และคนที่เราแอบรักไปต่างๆนาๆ หลายคนเข้าใจว่าในวันนี้เป็นวันที่เราจะแสดงความรักต่อคนที่เรารัก คนรักหรือแฟนของเราเพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นความเข้าใจแบบผิดเพราะการแสดงถึงความรักในวันวาเลนไทน์นั้นนอกจากเราจะแสดงความรักต่อคนรักแล้วยังรวมไปถึงคุณพ่อ คุณแม่ ญาติพี่น้อง และเพื่อนๆของเราอีกด้วย ดังนั้นวันวาเลนไทน์นั้นจะทำให้คุณกล้าที่จะบอกรักมากขึ้น กล้าที่จะแสดงความรัก ความปรารถนาดีต่อคนที่คุณรักได้อย่างไม่เขินอาย ดังนั้นเรามาดูกันเลยว่าในวันวาเลน์ไทน์นั้นนอกจากบอกรักคนที่เรารักได้แล้ว คนมีรักเขามักจะทำอะไรกันบ้าง ?

มาเริ่มกันที่ข้อแรกก่อนเลย ทำการ์ดวาเลไทน์น่ารักๆ ใส่กลอนหวานๆซึ้งๆหรือเขียนบรรยายความในใจให้กับคนที่เราเขียนถึงไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวอย่างคุณพ่อคุณแม่ พี่น้อง เพื่อนๆและแฟน เช่น

You’re the shinning stars brighten my life with hope

You’re the strength that support my life whenever need,

And the best time in my life is having you beside me.

เธอเห็นดาวในดวงใจ ส่องสว่างใสให้ความหวังเธอเป็นแรงพลัง ในทุกครั้งที่ฉันต้องการกำลังใจ และช่วงเวลาที่ดีที่สุดของฉัน คือคืนวันที่มีเธอเคียงข้าง

2. เมื่อมีการ์ดแล้วก็ต้องมีของขวัญสุดพิเศษด้วย แต่ของขวัญนั้นจะมีสองแบบคือ แบบซื้อมากับ DIY. ทำเองด้วยฝีมือของเรานี้แหละ ซึ่งจากประสบการณ์ของผู้เขียนเองถ้าเป็นสิ่งที่เราทำเองด้วยความพยายามและความตั้งใจแล้วผู้รับจะมีความสุข และเห็นคุณค่าของของขวัญชิ้นนั้นมากกว่าการซื้อให้ อีกทั้งของที่เราทำเองมีคุณค่าทางจิตใจต่อผู้ให้และผู้รับมากกว่าการซื้อซะอีก

มือใหม่หัดทำการฝีมืออย่างเราจะทำอะไรได้บ้างล่ะ?

ไม่ต้องกังวลใจไปเลยค่ะ เพราะสิ่งที่เราสามารถทำได้ง่ายๆนั้นมีอยู่รอบๆตัวเรานั้นแหละค่ะ จนบ้างครั้งใกล้ตัวจนคุณมองข้ามไปก็ได้ เช่น โชว์ฝีมือการทำอาหารไปเลย ทำอาหารในคนที่คุณรักทานจัดโต๊ะให้สวยงาม จุดเทียนเล็กๆ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถดินเนอร์ใต้แสงเทียนกับคนในครอบครัวและคนที่คุณรักได้แล้ว นอกจากนี้ยังเมนูช็อคโกแลตเบเกอร์รี่ที่เราสามารถทำเองได้ง่ายๆ และของขวัญชิ้นเล็กๆไม่ว่าจะเป็นจัดสวนดอกไม้ในกระถาง ปักเสื้อคู่กิ๊ฟเก๋ด้วยฝีมือของเราและอื่นๆอีกมากมายซึ่งผู้เขียนจะมาบรรยายของขวัญ DIY. ในบทความถัดไปนั้นเอง

3. เพิ่มบรรยากาศสุดโรแมนติกด้วยดูหนัง ฟังเพลงสุดซึ้ง ความหมายดีๆ ที่มักจะสื่อความหมายที่ดีได้เสมอ ในบางวันนั้นเพลงบางเพลงและหนังบางเรื่องอาจไม่ทำให้เรารู้สึกถึงอารมณ์ได้เท่ากับการเปิดเพลงและดูหนังรักนั้นในวันแห่งความรัก ฉะนั้นการฟังเพลงหรือการดูหนังรักกับคนรักจึงทำให้สร้างความรู้สึกผูกพันที่แน่นแฟ้นไปกว่าเดิมได้ดีเลยทีเดียว

4. เล่นเกมส์ในวันวาเลนไทน์ อาจจะเป็นกิจกรรมเกมส์ที่จัดปาร์ตี้ขึ้นที่บ้านเพื่อสร้างความสัมพันธ์ในกลุ่มเพื่อนฝูงและครอบครัวให้สนิทสนมกลมเกลียวมากกว่าเดิม นอกจากนี้ยังช่วยสานความสัมพันระหว่างเพื่อนให้กลายมาเป็นแฟนได้ง่ายๆ อีกด้วย

และกิจกรรมสุดท้ายที่เราไม่ควรพลาดในวันวาเลนไทน์นั้นก็คือ บอกรักในวันวาเลนไทน์ คำพูดบางคำก็สื่อความหมายได้ดีสำหรับวันนี้ เช่นคำว่ารักและคำอีกบางคำที่แทนความหมายคล้ายๆ กัน การบอกรักในวันวาเลนไทน์มักจะทำให้หลายคนที่เชื่อมั่นในศรัทธาได้สมหวังและดื่มด่ำกับความรักในวันนี้อยู่เสมอ เช่น คำว่า I Love You. (ฉัน/ผม รักคุณ) คำที่สั้นๆง่ายๆแต่กินใจสุดๆ >_< 

ความหมายของคำว่า L – O – V – E

L – Loyalty in love between 2  peopie

คือความซื่อสัตย์ ระหว่างคน 2 คน

 

O – Opportunity  for the  false 

 ให้โอกาสแก้ตัวเสมอ สำหรับความผิดพลาด

 

V – Vitality  in love for your Life

  รักเป็นสิ่งที่มีชีวิตชีวาและเติมความสดใสให้ชีวิต

 

E – Effort  to improve your  self to be,betthe man for your Love 

 การพยายามปรับปรุงตัวเองให้ดียิ่งขึ้นเพื่อคนรัก

ทำไมวันวาเลนไทน์ต้องมอบดอกไม้ แก่คนที่เรารัก?

ดอกไม้ เป็นของขวัญป้ายแดงที่นิยมมากที่สุดเพราะเรามักใช้ดอกไม้เป็นสื่อกลางในการแสดงออกถึงความรักที่มีต่อกัน จนในบางครั้งเราเผลอคิดไปว่าดอกไม้เป็นสิ่งที่แสดงถึงความรักที่หนุ่มสาวมีให้กันเท่านั้น แต่เราลืมนึกไปว่าจริงๆแล้วดอกไม้นั้นสามารถใช้ได้กับทุกโอกาสเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการมอบดอกไม้เพื่อแสดงความยินดีในงานมงคลต่างๆอาทิ ทำบุญบ้านใหม่ งานรับปริญญา วันเกิด งานแต่งงาน หรือในวันขึ้นปีใหม่บ้างท่านที่ไม่ได้จัดกระเช้าก็มักจะเลือกส่งดอกไม้ไปแทนนั้นเอง และนอกจากจะมอบดอกไม้ในงานมงคลแล้วยังสามารถใช้ในงานอวมงคลอย่างเช่น งานศพ นั้นเอง ซึ่งดอกไม้แต่ละชนิดก็จะมีความหมายและการเลือกใช้ในเหมาะสมกับงานนั้นๆอีกด้วย แต่ดอกไม้ที่คู่รักนิยมมอบให้กันมากที่สุดนั้นก็คือ “ดอกกุหลาบ”

มนุษย์ได้ใช้ดอกไม้เป็นสื่อในการแสดงความรักต่อกันมานานแล้ว เราคิดว่าดอกไม้เป็นสิ่งความรักของหนุ่มสาวเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วดอกไม้ยังใช้สื่อความรักได้หลายรูปแบบ ทั้งยังไม่จำกัดอายุและเพศอีกด้วย

ดอกกุหลาบนั้นถือว่าเป็นตัวแทนแห่งความรัก ความเข้าใจ ซึ่งในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์นี้เราจะรู้กันดีเลยว่า ดอกไม้เกือบทุกชนิดโดยเฉพาะดอกกุหลาบซึ่งเป็นที่ต้องการของทุกคนนั้นจะขึ้นราคาสูงกว่าปกติ (แต่เราก็ซื้อจริงมัยล่ะจ๊ะ) นอกจากนี้การเลือกซื้อดอกกุหลาบไม่ว่าจะเป็นการจัดช่อปนกับดอกไม้อื่นๆหรือจะซื้อสีเดียวยกห่อก็มักจะมีการเลือกจากความหมายของกุหลาบสีต่างๆนั้นเองอาทิ

กุหลาบแดง (Red Rose) : จะใช้ในความหมายแทน ประโยคที่ว่า “ฉันรักเธอ”

กุหลาบขาว (White Rose): กุหลาบขาวแทนความหมายแห่งความรักอันบริสุทธิ์

กุหลาบชมพู (Pink Rose) : มักถูกใช้แทนความรักแบบโรแมนติก และความเสน่หาต่อกัน

กุหลาบเหลือง (Yellow Rose) : สีเหลืองเป็นสีแห่งความสดใส แทนความรักแบบเพื่อน

ส่วนในจำนวนกุหลาบสื่อความหมาย ก็สามารถบอกความหมายแห่งความรัก
แทนความหมาย ดังนี้

1 ดอก รักแรกพบ
2 ดอก แสดงความรู้สึกที่ดีให้กัน
3 ดอก ฉันรักเธอ
7 ดอกคุณทำให้ฉันหลงเสน่ห์
9 ดอก เราสองคนจะรักกันตลอดไป
10 ดอก คุณเป็นคนที่ดีเลิศ
11 ดอก คุณเป็นสมบัติชิ้นที่มีค่าชิ้นเดียวของฉัน
12 ดอกขอให้เธอเป็นคู่ของฉันเพียงคนเดียว
13 ดอก เพื่อนแท้เสมอ
15 ดอก ฉันรู้สึกเสียใจจริงๆ
20 ดอก ฉันมีความจริงใจต่อเธอ
21 ดอก ชีวิตินี้ฉันมอบเพื่อเธอ
36 ดอก ฉันยังจำความหลังอันแสนหวาน
40 ดอกความรักของฉันเป็นรักแท้
99 ดอก ฉันรักเธอจนวันตาย
100 ดอก ฉันอุทิศชีวิตนี้เพื่อเธอ
101 ดอก ฉันมีคุณเพียงคนเดียวเท่านั้น
108 ดอกคุณจะแต่งงานกับฉันไหม
999 ดอกฉันจะรักคุณจนวินาทีสุดท้าย

อย่างไรก็ตามถึงแม้การมอบดอกไม้หรือดอกกุหลาบที่สวยที่สุด เป็นสีที่ตรงกับความหมายที่สุด และเป็นจำนวนที่สื่อรักได้ดีที่สุด แต่การมอบดอกไม้นั้นถึงแม้จะมีความหมายดีมากเท่าไหร่แต่ก็เป็นเพียงดอกไม้ที่สวย หอม และเบ่งบานในวันนั้นและมันจะค่อยๆเหี่ยวแห้งไปในที่สุดเหลือก็แต่เพียงซากของดอกไม้ไว้ในเรานึกถึง แต่สิ่งที่เป็นเครื่องยืนยันได้ดีที่สุดนั้นก็คือ “การกระทำ” หรือ “การแสดงออก” กับคนที่เรารัก และ คนที่ได้ดอกกุหลาบมากที่สุด ไม่ได้หมายความว่าคนๆ นั้นจะมีความรักที่น่าอิจฉาที่สุด ตรงกันข้าม คนที่ไม่ได้ของขวัญวาเลนไทน์ซักชิ้น อาจจะมีรักที่น่าอิจฉาที่สุดเลยก็เป็นได้

Chocolate Love

ช็อคโกแลตถือว่าเป็นของขวัญแทนใจอีกชิ้นหนึ่งที่หลายคนมักจะมอบให้กันในวันวาเลนไทน์ แล้วคุณทราบกันหรือไม่ว่าทำไมถึงต้องให้ช็อคโกแลตด้วยล่ะ? ว่ากันว่าในยุคโรมันที่นักบุญวาเลนไทน์ได้เสียชีวิตนั้น ช็อคโกแลตยังเป็นของหายากจึงเป็นสิ่งที่มีค่าที่คนรักจะมอบแทนใจให้กันได้ จึงส่งไปพร้อมการ์ดและดอกไม้ ซึ่งสื่อความหมายของความรักมาแต่ไหนแต่ไรแล้วก็ได้ และอาจจะรวมไปถึง การที่ช็อคโกแลตเคยเป็นสัญลักษณ์ของ เสรีภาพ มิตรภาพ และสันติภาพ

และเหตุผลที่สำคัญอีกข้อหนึ่งของการมอบช็อคโกแลตในวันวาเลนไทน์นั้นก็เพราะว่าสามารถช่วยกระตุ้นอารมณ์รักได้ด้วย ซึ่งได้มีเรื่องเล่าขานกันมาว่า นายมองเตชูมา นักรบผู้พิชิตแห่งสเปน มักจะดื่มช็อกโกแลตเป็นประจำเสมอ ก่อนไปหาเหล่าสาวๆในฮาเร็ม เพื่อต้องการกระตุ้นอารมณ์รักนั่นเอง

ประโยชน์ของช็อคโกแลต

นอกจากช็อคโกแลตจะเป็นสัญลักษณ์ของความรัก มิตรภาพและเสรีภาพแล้ว ช็อคโกแลตยังมีประโยชน์มากมายไม่ว่าจะเป็นช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและป้องกันการก่อตัวของไขมันในเส้นเลือด ป้องกันโรคหัวใจและมะเร็ง แต่ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของช็อคโกแลตที่ใครได้ยินเป็นต้องโดนคือ ทานช็อคโกแลตแล้วทำให้อ่อนวัย แก่ช้า เพราะในช็อคโกแลตมีสารตัวหนึ่งที่ชื่อว่าเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) หรือสารแห่งความสุขนั่นเอง ซึ่งเจ้าสารเอ็นดอร์ฟินนั้นช่วยกระตุ้นให้สมองของเราหลั่งสารแห่งความสุขออกมา จึงทำให้เรานั้นรู้สึกดีและช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย

ฮันแน่….รู้ถึงข้อดีขอเจ้าช็อคโกแลตแล้ว อย่าทานเยอะล่ะ เดี๋ยวอ้วนไม่รู้ด้วยน๋า..อิอิ

VALENTINEDAYPEDIA

Comments




Pin It on Pinterest

Share This